Google

Sunday, October 18, 2009

War Type : Insurgency

ประเภทของสงคราม : การก่อการกำเริบ

การลุกฮือขึ้นต่อต้านรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นการปฏิวัติอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายระหว่างประเทศนั้น การก่อการกำเริบนี้ คือ การก่อการกบฏที่ยังมิได้รับการรับรองการเป็น”คู่สงคราม" ในสงครามกลางเมือง การก่อการกำเริบนี้ อาจส่งผลให้รัฐอื่นประกาศเตือนพลเมืองของตนให้มีความระมัดระวังในการมีความสัมพันธ์ทางการค้าและการท่องเที่ยวกับรัฐที่มีปัญหานี้อยู่ก็ได้ แต่การก่อการกำเริบนี้ประชาคมระหว่างประเทศจะถือว่าเป็นเรื่องกิจการภายใน อย่างไรก็ดี หากการลุกฮือขึ้นต่อต้านนี้มิได้ถูกปราบปรามได้ทันเวลา โดยฝ่ายรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย รัฐอื่น ๆ ก็อาจจะมอบสถานภาพการเป็นคู่สงครามให้แก่ฝ่ายบกฏนั้นก็ได้

ความสำคัญ ปัญหาการก่อการกำเริบนี้ มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในยุคแห่งการปฏิวัติ และได้กลายเป็นประเด็นระหว่างประเทศที่มาบั่นรอนความสัมพันธ์ระดับรัฐในหมู่กลุ่มที่ขัดแย้งแข่งขันทางอุดมการณ์กันอยู่นี้ นับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงเป็นต้นมา การก่อการกำเริบนี้ ฝ่ายกองกำลังคอมมิวนิสต์ถูกกำหนดให้นำมาใช้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โดยการใช้เหตุผลทางชาตินิยมและทางเศรษฐกิจมาทำการท้าทายระบบเก่าในรัฐด้อยพัฒนาหลายรัฐอยู่ในขณะนี้ คำประกาศของสหภาพโซเวียตและของจีน ที่เรียกร้องให้มีการทำ”สงครามปลดปล่อยแห่งชาติ” นี้ก่อให้เกิดนโยบายและโครงการต่อต้านการก่อการกำเริบของรัฐต่าง ๆ ในตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสหรัฐอเมริกา และเพื่อจะจัดการกับการก่อการกำเริบในกลุ่มประเทศโลกที่สามโดยการชี้นำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นี้ ทางการทหารของสหรัฐอเมริกาจึงได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษขึ้นมา อย่างเช่น หน่วยพิเศษหมวกเบเรต์เขียว และกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว เป็นต้น ในระหว่างทศวรรษหลังปี ค.ศ.1970 และทศวรรษหลังปี ค.ศ. 1980 ได้มีการใช้การก่อการกำเริบ ในสงครามจำกัดในเวียตนาม ในการลุกฮือขึ้นต่อต้านในดินแดนแองโกลาและโมแซมบิกในทวีปแอฟริกาของอดีตเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส ในการต่อสู้ด้านการเหยียดผิวของคณะชาตินิยมแอฟริกา(เอเอ็นซี) ในแอฟริกาใต้ ในการก่อการกำเริบด้วยการใช้กองโจรขององค์การประชาชนแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้(สวาโป)ในนามิเบีย และในสงครามกองโจร อีกหลายแห่งในหมู่ประเทศในแถบละตินอเมริกา เป็นต้น

No comments:

Post a Comment