War Type : Preventive War

ประเภทของสงคราม : สงครามป้องกันตัว

ยุทธศาสตร์ทางทหารที่ชาติใดชาติหนึ่งชอบใช้การได้เปรียบในอานุภาพการโจมตีของตนชิงโจมตีศัตรูก่อน หลักการในการทำสงครามป้องกันตัวนี้ ใช้การโจมตีอย่างฉับพลันโดยไม่รู้ตัวจนสามารถสร้างความพินาศย่อยยับให้แก่รัฐศัตรูที่กำลังพัฒนาอานุภาพที่เหนือกว่า เป็นการป้องกันมิให้ศัตรูสามารถปฏิบัติการโจมตีในอนาคตได้ ทฤษฎีที่ว่านี้ ได้ตั้งเป็นข้อสมมุติฐานไว้ว่า อีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังแข่งขันสร้างเสริมอาวุธอยู่นั้น มีความมุ่งมั่นแน่วแน่จะทำการรุกรานตนในอนาคตแน่ และหากปล่อยไว้ให้ถึงเวลานั้นโอกาสก็จะเกื้อกูลต่อฝ่ายตรงข้าม จึงได้ใช้วิธีการโจมตีแบบแตกหักและอย่างฉับพลันเพื่อทำลายภัยคุกคามที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตนั้นเสียเลย

ความสำคัญ แนวความคิดในเรื่องสงครามป้องกันตัวนี้ เป็นข้ออ้างเหตุผลที่สำคัญในช่วงที่มีการแข่งขันเสริมสร้างอาวุธตามแบบระหว่างชาติต่างๆ ที่มีศักยภาพทางการทหารและทางการเศรษฐกิจอย่างจำกัด ยกตัวอย่างเช่น ในตะวันออกกลางเมื่อ ค.ศ. 1967 ฝ่ายอิสราเอลได้ทำสงครามป้องกันตัวนี้ โดยการโจมตีอย่างฉับพลัน จนสามารถทำลายกองกำลังฝ่ายอาหรับได้หลายกองทัพซึ่งเป็นกองทัพที่เตรียมไว้เพื่อใช้โจมตีอิสราเอล ผู้นำอิสราเอลเห็นว่า ทรัพยากรมนุษย์ของฝ่ายอาหรับที่มีอยู่เหนือกว่า และการช่วยเหลือทางการทหารของโซเวียตเมื่อผนวกเข้าด้วยกันแล้วก็จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของอิสราเอลแน่ ๆ แต่ว่าการทำสงครามป้องกันตนเองนี้ ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต อาจจะนำมาใช้ได้แต่ถูกลบล้างเมื่อ ทั้งสองฝ่ายได้มีการพัฒนาในเทคโนโลยีนิวเคลียร์และระบบส่งนิวเคลียร์ และแต่ละฝ่ายมีขีดความสามารถที่จะทำการตอบโต้กันซึ่งจะทำให้การโจมตีแบบทำสงครามป้องกันตัวนี้นำไปสู่การฆ่าตัวตายของทั้งสองฝ่ายได้